วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำไมเจ้าเหมี๋ยวไม่ชอบน้ำ

เป็นเรื่องที่เราถูกสอนกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกกับเรื่องที่ว่าแมวเป็นสัตว์ที่คิดยึดครองโลก…เอ่อ ไม่สิ…ต้องเรื่องที่ว่าแมวกลัวน้ำ และไม่ถูกกับสุนัขต่างหาก เพราะจะว่าเราก็แทบไม่เคยเห็นแมวที่ไหนกล้าพอจะกระโดดลงน้ำด้วยความสมัครใจ และมักตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นสุนัขกับแมวนอนด้วยกันได้ เพราะส่วนใหญ่มักเป็นคู่กัดกันตลอด งั้นเรามาดูความลับของเรื่องนี้ของเจ้าน้องเหมียวกันดีกว่านะครับ
แน่นอนว่าแมวบ้านส่วนใหญ่มักมีปัญหาเวลาต้องโดนน้ำเสมอ และทำให้คนเลี้ยงแบบเราคิดไปว่าพวกมันกลัวน้ำ แต่อย่าลืมนะว่าแมวเป็นสัตว์ที่อยู่ในจำพวก Feline เช่นเดียวกับเสือโคร่ง เสือจากัวร์ และแมวป่าอีกหลายชนิดที่โปรดปรานการกระโจนลงไปแหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างมากและเป็นส่วนหนึ่งในวิธีล่าเหยื่อของสัตว์ตระกูลแมวแทบทุกชนิด


งั้นทำไมแมวบ้านถึงไม่ชอบน้ำละ…เหตุผลง่ายคือ แมวเป็นสัตว์ที่ให้ความสำคัญกับขนตัวของตัวเองมาก และมันจะพยายามให้ขนของมันเปียกน้อยที่สุด แต่ถ้าขนมันเปียกเมื่อไหร่ มันยอมเสียเวลาทั้งวันเพื่อเลียขนตัวเองให้แห้งและแสดงอาการหงุดหงิดทุกครั้งที่ขนของมันเปียก

อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้แมวบ้านเป็นสัตว์ไม่ชอบน้ำนั่นคือแมวเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่ต้องดิ้นรนหาอาหารเอง เพราะมีเจ้าของคอยยกมาเสิร์ฟให้ถึงที่และอ้อนวอนให้มันยอมกินเข้าไปสักคำสองคำ แต่ถ้าวันดีคืนดี เกิดเจ้าแมวอ้วนของคุณดันหลงทางหรือหนีออกจากบ้านแล้วหาทางกลับไม่ถูกและต้องอยู่ในสภาพอดอาหารละก็ เจ้าแมวหิวโหยจะไม่รีรอเลยที่จะวิ่งไล่ตะครุบนกและสัตว์ขนาดเล็ก หรือแม้แต่กระโจนลงไปในอ่างน้ำตื้นๆ เพื่อจับปลาขึ้นมากิน

http://animals.spokedark.tv

น้องหมากับแมวเป็นศัตรูกันจริงหรือ

ทำไมน้องหมากับน้องแมวไม่ถูกกัน?


 ตอนเด็กๆ เพื่อนๆ คงเคยเห็นน้องหมากับน้องแมวไล่กัดกันไปมา ทั้งจากในการ์ตูน ในภาพยนตร์จนเราเข้าใจว่าพวกเขาเป็นคู่อริ อยู่ร่วมกันไม่ได้ แต่ความจริงแล้วพวกเขาเป็นศัตรูกันจริงหรือไม่?.....หรือว่าเราเข้าใจอย่างนั้นกันไปเอง?.... ธรรมชาติของน้องหมาเป็นสัตว์ขี้เล่น หวงถิ่น ต้องการแสดงอำนาจเหนือ  และมีสัญชาตญาณของนักล่าที่ติดมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่เป็นหมาป่า มีดวงตาจับความเคลื่อนไหวได้อย่างดีเยี่ยม จึงไวมากกับการไล่จับสัตว์ชนิดต่างๆ ที่วิ่งผ่านไปมาไม่เว้นแม้แต่น้องแมว หรือ น้องหมาด้วยกันเอง ยิ่งเป็นน้องหมาเด็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เวลาเห็นน้องแมวก็จะรู้สึกหมั่นเขี้ยว ตื่นเต้น สนุกกับการได้กระโดดไล่ล่า อยากเล่นด้วย จึงพุ่งเข้าหาแบบไม่คิดว่าจะเป็นชนวนให้เกิดศึกหรือได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การวิ่งไล่ของน้องหมาจะเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ ความคึกคะนองไม่ใช่การล่าเพื่อเจตนาทำร้าย หรือ เพื่อกินเป็นอาหาร แต่ก็อาจทำให้น้องแมวบอบช้ำ บาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ เพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็นของน้องหมานั่นเอง
ส่วนน้องแมวพวกเขามีขนาดตัวเล็กกว่าน้องหมา ธรรมชาติชอบอยู่นิ่งๆ โลกส่วนตัวสูง เวลามีแมลงหรือ สัตว์ที่ขนาดเล็กกว่าก็จะตะปบเล่นเป็นปกติ จนเมื่อมาเจอกับน้องหมาที่ตื่นตัวเกินเหตุกับทุกสิ่ง และมีขนาดตัวใหญ่กว่า เห่าขู่ ส่งเสียงดัง จ้องจะพุ่งเข้ามาหา โดยสัญชาตญาณน้องแมวจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ จึงต้องวิ่งหนี และหาทางโจมตีเพื่อเอาตัวรอด ดังนั้น การที่คิดว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นคู่อริกัน เกลียดโกรธกัน โดยเผ่าพันธุ์จึงไม่ใช่ความจริงอย่างที่เราเข้าใจ ซึ่งถ้าพวกเขาได้รับเลี้ยงดูร่วมกัน ได้รับการฝึกที่เหมาะสม น้องหมากับน้องแมวก็สามารถปรับตัวได้ รักกันเป็นปกติสุขค่ะ ^^

Cr.Dogilike.com

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

10 ข้อที่ควรรู้ก่อนเลี้ยงเจ้าเหมี๋ยว

10 ข้อที่ควรคำนึง ก่อนมองหาแมวมาเลี้ยง

          เจ้าแมวน้อยน่ารัก ที่มีสายตาขี้อ้อน ทำให้คนรักแมวหลายท่านต้องหลงใหลไปกับพวกมัน จนตัดสินใจซื้อเจ้าเหมียวมาเลี้ยงแบบไม่ทันได้เตรียมความพร้อม ความเป็นอยู่ให้กับเจ้าเหมียว จึงทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อาหาร ความเป็นอยู่ ค่าใช้จ่าย หรือพื้นที่สำหรับเจ้าเหมียว ดังนั้นวันนี้จึงมีสิ่งที่คนรักแมวควรรู้และเตรียมความพร้อมจาก ก่อนที่จะตัดสินใจนำสมาชิกตัวน้อยนี้เข้ามาในบ้าน จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

1. พื้นที่

          ใครที่คิดจะหาเจ้าเหมียวมาเลี้ยงนั้น สิ่งแรกที่ควรรู้นั้นก็คือ เจ้าเหมียวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการพื้นที่ ยิ่งมีพื้นที่มากเท่าไร เจ้าเหมียวก็จะมีความสุขมากเท่านั้น ดังนั้นคนที่คิดจะหาแมวมาเลี้ยงควรจัดสรรพื้นที่ให้เจ้าเหมียวของคุณให้ดี หรือหากบ้านมีพื้นที่ไม่กว้างมากนะ อย่างน้อยก็ให้แมวของคุณได้วิ่งเล่นบนพื้นบ้าง เพราะจะทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากขึ้น

2. ค่าใช้จ่าย

          การจะเลี้ยงสัตว์สักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะกับแมว ดังนั้นคุณจึงควรเตรียมตัวให้พร้อม เพราะมีหลายสิ่งให้ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าเหมียวของคุณ เช่น อาหารแมว ที่นอนเจ้าเหมียว ของเล่น เสื้อผ้า หรือแปรงสำหรับแปรงขน ที่สำคัญอย่าลืมค่ายาต่าง ๆ และเรื่องการตรวจสุขภาพแมวด้วยนะคะ

3. เวลา

          ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแมวมาเลี้ยงสักตัวนั้น คิดให้ดีก่อนว่าคุณมีเวลาให้กับเจ้าเพื่อนเหมียวตัวน้อยของคุณหรือไม่ เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ต้องการความรัก ต้องการให้เจ้าของให้ความสนใจ ดังนั้นการใช้เวลาร่วมกับเจ้าเหมียวเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนจะซื้อจึงควรตัดสินใจให้ดีก่อนว่าคุณสามารถรับผิดชอบแมวได้มากแค่ไหน


4. อายุขัย

          หลายคนซื้อแมวมาเลี้ยงเพียงเพราะความน่ารัก และดูแลเอาใจใส่อยู่เพียงแค่ระยะหนึ่ง เหมือนแมวน้อยเป็นของเล่นชิ้นใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่าแมวมีอายุขัยประมาณ 15-20 ปี และเมื่อวันหนึ่งที่เจ้าแมวเติบโตขึ้น หรือเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา จะต้องใช้ทั้งเงิน ความใส่ใจ และเวลาในการดูแลรักษาด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจหาแมวมาเลี้ยง ก็ควรเช็กความพร้อมของตัวเองให้ดีก่อนว่า พร้อมจะดูแลเจ้าแมวน้อยไปจนหมดอายุขัยหรือไม่


 5. อาหาร

          เจ้าเหมียวต้องการการดูแลเอาใจใส่ อาหารที่ให้ควรคำนึงถึงสุขภาพของมันเช่นกัน ดังนั้นเจ้าของควรศึกษาให้ดีว่าควรให้อาหารกับเจ้าเหมียวของคุณแบบไหนดี คนรักแมวหลายคนอาจนิยมให้การอาหารเม็ดเพื่อที่ทำให้ขนของเจ้าเหมียวดูสวย แต่จะรู้ไหมว่าการให้อาหารเม็ดมากเกินไปอาจมีผลเสียต่อร่างกายของเจ้าเหมียวเอง ดังนั้นถ้าเจ้าของไม่แน่ใจควรขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ดีกว่าค่ะ

 6. ลักษณะนิสัย

          แมวแต่ละตัวมีนิสัยไม่เหมือนกันอยู่แล้ว อย่างเช่น แมววิเชียรมาศ นั้นเป็นแมวที่ค่อนข้างบ้าพลัง และต้องการให้คนเอาใจใส่ แต่สำหรับแมวเปอร์เซียร์นั้นจะเป็นแมวที่เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ สบาย ๆ ดังนั้นก่อนที่จะหาแมวมาเลี้ยงนั้นคุณจึงควรหาข้อมูลก่อนว่าแมวชนิดไหนเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณมากกว่า


                                                                     

7. สุขภาพ

        อาการเจ็บไข้ของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเจ้าเหมียวมาเลี้ยง ควรดูให้แน่ใจว่าก่อนว่าเจ้าเหมียวที่คุณจะซื้อนั้นไม่มีอาการป่วย ด้วยการสังเกตง่าย ๆ ว่าสายตาของมันลอยหรือไม่ ที่หูแห้งหรือเปล่า หรือถ้าคุณสังเกตว่าเจ้าเหมียวมีอาการเซื่องซึมก็ควรมองหาตัวใหม่แทนนะคะ

8. เพศ

          การเลือกซื้อแมวเพศผู้ หรือเพศเมียนั้นยอมต่างกันแน่นอน ดังนั้นคุณเองควรตัดสินใจว่าอยากได้เจ้าเหมียวเพศไหน สำหรับแมวเพศเมียนั้นส่วนมากจะมีนิสัยที่เป็นมิตร ขี้อ้อน เข้ากับคนง่าย แต่แมวเพศผู้จะค่อนข้างซน อยู่ไม่สุข แต่เมื่อแมวเพศผู้นั้นถูกทำหมันพวกมันจะมีนิสัยคล้ายแมวเพศเมีย ซึ่งเวลามองหาซื้อแมวสักตัว ถ้าเป็นแมวที่เพศเมียที่ทำหมันแล้วราคาจะค่อนข้างแพงกว่าแมวทั่วไปค่ะ ดังนั้นตัดสินใจให้ดีก่อนว่าแมวเพศไหนที่คุณอยากเลี้ยงมากกว่ากัน

9. อายุ

        เมื่อต้องการที่จะซื้อแมวมาเลี้ยง คุณควรแน่ใจว่าต้องการเลี้ยงเจ้าเหมียวอายุเท่าไร โดยไม่ควรซื้อลูกแมวที่อายุน้อยกว่า 8 สัปดาห์ เพราะว่าลูกแมวยังเล็กและบอบบางเกินไป เมื่อนำมาเลี้ยงอาจยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ดังนั้นควรซื้อลูกแมวที่อายุอย่างน้อย 12 สัปดาห์ขึ้นไปจะปลอดภัยกว่า

10. รับเลี้ยงแมวจรจัด

          สิ่งที่ต้องคำนึงอีกหนึ่งประการสุดท้ายก็คือ คุณต้องการเลี้ยงแมวที่เป็นสายพันธุ์หรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้มีแมวจรจัดมากมายที่คนรักแมวนิยมรับเลี้ยง ทั้งน่ารัก น่าเอ็นดูไม่ต่างจากแมวที่ขายกันตามร้านสัตว์กันเลยทีเดียว ดังนั้นทางเลือกนี้ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณอาจจะเจอแมวที่เหมาะกับคุณ แถมยังได้ทำบุญกับเจ้าแมวไร้บ้านเหล่านี้อีกด้วยนะคะ


          เพียงแค่คุณศึกษาข้อมูลก่อนที่จะนำเจ้าเหมียวเข้าบ้าน ดูว่าแมวตัวไหนหมาะกับคุณ และเตรียมตัวให้พร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ เท่านี้ก็สามารถเลือกซื้อแมวที่ถูกใจมาอยู่กันอย่างมีความสุขทั้งสองฝ่ายแล้วล่ะจ้า



                                                                     
Cr.กระปุกดอทคอม

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประวัติเจ้าแสนซน

ประวัติความเป็นมาของน้องแมว
     "แมว" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Felis Catus" มีกำเนิดขึ้นบนโลกมากกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว นักชีววิทยาค้นพบว่าบรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและิกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miacis และได้วิวัฒนาการจนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน ขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่เรียกว่า Dinistis
     ในความจริงแล้วนั้นแมวบ้านมีต้นตระกูลที่แยกออกมาจากเสือไซบีเรียน และแมวพื้นเมืองต่าง ๆ ปัจจุบันสายพันธุ์แมว (รวมทั้งสิงโตและเสือต่าง ๆ ) มีทั้งหมดถึง 36 ตระกูล 51 ชนิด
    ชาวอียิปต์โบราณ นับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าถึงกับว่าหากแมวตายในบ้านต้องนำไปทำมัมมี่เลยทีเดียว ขนาดคนที่จะนำไปทำมัมมี่ยังต้องเป็นเฉพาะราชวงศ์ หรือขุนนางเท่านั้น ซึ่งมัมมี่ที่ว่านี้ สามารถตามไปดูกันได้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษ เหตุที่ชาวอียิปต์โบราณนับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้านั้น เพราะเมื่อประมาณ 4,000 กว่าปีก่อน กลุ่มชาวนาได้นำแมวป่ามาฝึกใช้ในการจับหนูในโรงนา ที่เข้ามาทำความเสียหายกับผลผลิตและพืชพันธุ์ของชาวนา เมื่อหนูในโรงนาหมดไป ประชาชนก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น แถมยังปราศจากโรคภัยที่เกิดจากหนูอีกด้วย แมวจึงได้ถือว่าเป็นสัตว์เทพเจ้าในยุคอียิปต์โบราณนั่นเอง ซึ่งเทพเจ้า Bastes หรือเทวีบัสเตต ที่ชาวอียิปต์นับถือนั้น มีตัวเป็นคนแต่มีหัวใจเป็นแมวเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นหากใครฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ยกตัวอย่างเช่นในสมัยก่อนพวกที่ต้องการยึดครองอาณาจักรอีิยิปต์โบราณจึงใช้วิธีอุ้มแมวไปรบด้วยซึ่งชาวอียิปต์นั้นก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า อาณาจักรอียิปต์ล่มสลายเพราะแมว ถึงอียิปต์โบราณจะล่มสลายแต่ความนับถือแมวเป็นดั่งเทพเจ้าก็ยังเหมือนเดิม

     เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า แมวขยายพันธุ์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลกได้อย่างไร ก็เพราะชาวอียิปต์ไม่เพียงแต่ใช้หนูจับแมวในโรงนาเท่านั้น ยังใช้จับหนูบนเรือสินค้าอีกด้วย จึงมีความเชื่อว่าเมื่อเรือเทียบท่า แมวก็ได้ลงเรือแต่ไม่ได้กลับขึ้นมาบนฝั่ง เลยเป็นเหตุให้มีแมวไปทุกแห่งหนทั่วโลก
          
    แต่สำหรับยุคกลางในยุโรป นั้นมีความเชื่อเรื่องแมวที่แตกต่างกับยุคอียิปต์โบราณโดยสิ้นเชิง โดยมีความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายต่าง ๆ เป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มดโดยเฉพาะแมวดำ และหากชาวยุโรปคนใดในยุคนั้นเลี้ยงแมวจะถูกประณามว่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้าย ถ้ายิ่งเป็นคนแก่เลี้ยงแมวด้วยนี่สิยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เรียกว่าเป็นต้องโดนจับเผาทั้งเป็นไม่ว่าคนหรือแมวก็ตาม และช่วงนี้เองที่ทำให้กาฬโรคเกิดการระบาดหนักในยุโรปเพราะปริมาณของหนูขณะนั้นนับวันยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น แต่แมวกลับยิ่งลดจำนวนน้อยลงนั่นเอง 
    ถัดมาดูทางแถบเอเซีย อย่างในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนกันบ้าง ได้เิริ่มนิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยเลี้ยงกันอยู่แล้ว เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นใช้แมวเป็นสัญลักษณ์ในการนำโชค อย่างที่เคยเห็นกันอยู่ตามร้านค้าทั่วๆ ไปนั่นก็คือ " แมวกวัก " จะใช้กวักเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนสินค้า หรือจะความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนแห่งโชคลาภเช่นกัน การที่แมวเข้ามาอยู่ในบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะทำให้เจ้าของบ้านมีโชคลาภมาเสมอ

    ประเทศไทย เราก็มีการเลี้ยงแมวมานานแล้วเหมือนกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่น แมวไทยคู่แรกได้ออกสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี พ.ศ. 2427 เป็นแมววิเชียรมาศแต้มสีครั่ง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเ้จ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงพระราชทานให้กับกงศุลอังกฤษประจำกรุงเทพมหานคร ขณะนั้นคือ Mr.Owen Gould และได้นำไปให้แก่น้องสาวที่อังกฤษอีกทอดหนึ่ง แต่หลังจากนั้น เมื่อปีพ.ศ.2428 แมวไทยคู่นี้แหละได้เข้าประกวดที่ประเทศอังกฤษ ในงาน The Crystal Palace และได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดอีกด้วยจากการประกวดครั้งนี้เองที่เป็นจุดเิริ่มต้นให้ชาวอังกฤษ นิยมหันมาเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้น จนได้จัดตั้ง The Siamese Cat Clubs ในปี พ.ศ 2443 และ The Siamese Cat Society of the Brithish Empire ในปี พ.ศ. 2471 จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แมวไทยคู่นี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงเห็นว่าแมวไทยสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงได้พระราชทานแมวไทยให้กับหลาย ๆ ประเทศ จนแมวไทยและประเทศไทยกลายเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงไปทั่วโลกนั่นเอง

                                        






            Cr. www. NTSfarm.com